การทำเว็บไซต์เพื่อสร้างยอดขาย ควรเลือกใช้ Wix หรือ WordPress อัปเดต 2025

ปี 2025 การขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์กลายเป็นหัวใจของธุรกิจ เว็บไซต์ คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างรายได้และภาพลักษณ์ให้แบรนด์ แต่คำถามที่เจ้าของธุรกิจจำนวนมากยังคงมีคือ “ถ้าจะทำเว็บไซต์เพื่อขายของ ควรเลือก Wix หรือ WordPress ดีกว่ากัน?”

WordPress vs Wix ระบบไหนตอบโจทย์ธุรกิจของคุณมากที่สุด

1. แนวคิดและลักษณะการใช้งานของ WordPress vs Wix

• WordPress เป็นระบบ Open Source ที่เปิดกว้างให้ปรับแต่งได้อิสระ ทั้งในส่วนดีไซน์ ระบบจัดการสินค้า และฟังก์ชันเชื่อมต่ออื่น เหมาะกับผู้ที่ต้องการเว็บไซต์ที่เติบโตได้ในระยะยาว
• Wix เป็นแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์แบบ “สำเร็จรูป” หรือ All-in-One คุณสามารถลากวางองค์ประกอบ ใส่รูป ข้อความ และเปิดเว็บได้ทันทีโดยไม่ต้องมีพื้นฐานด้านเทคนิค

กล่าวง่าย ๆ คือ Wix เน้น “ความสะดวก” ส่วน WordPress เน้น “ความยืดหยุ่น” และการต่อยอดในอนาคต

2. ด้านการออกแบบและความสวยงาม

Wix มีเทมเพลตสำเร็จรูปให้เลือกหลายร้อยแบบ สามารถปรับแต่งได้ง่าย เหมาะกับผู้เริ่มต้นหรือธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการเปิดเว็บไว ภายใน 1-2 วันก็พร้อมใช้งาน

ส่วน WordPress แม้ต้องใช้เวลามากกว่า แต่สามารถออกแบบได้ละเอียดกว่า มีธีม ปลั๊กอิน และเครื่องมือ Page Builder อย่าง Elementor หรือ Divi ที่ช่วยให้จัดวางหน้าตาเว็บได้อย่างมืออาชีพ สามารถสร้างแบรนด์ให้ดูโดดเด่นกว่าเว็บทั่วไป

สรุปว่า Wix ใช้งานง่าย เหมาะกับผู้เริ่มต้น แต่ WordPress ให้ความอิสระในการออกแบบมากกว่า โดยเฉพาะเมื่อธุรกิจเติบโต

3. ด้านระบบขายของออนไลน์ (E-commerce)

หากเป้าหมายของคุณคือ “ทำเว็บไซต์เพื่อขายสินค้า” นี่คือจุดที่ WordPress ได้เปรียบชัดเจน

• Wix Stores เหมาะกับร้านขนาดเล็ก มีระบบตะกร้าสินค้าและชำระเงิน แต่การปรับแต่งยังค่อนข้างจำกัด
• WordPress + WooCommerce สามารถเชื่อมระบบคลังสินค้า โปรโมชั่น ระบบสมาชิก และ ช่องทางชำระเงิน ได้แทบทุกแบบ รวมถึงรองรับ SEO เต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ WooCommerce ยังรองรับปลั๊กอิน เช่น Line Pay, Omise, PromptPay, Facebook Shop และ Google Shopping ซึ่ง Wix ยังทำได้ไม่ครบในตลาดไทย

4. ด้าน SEO และการตลาดออนไลน์

เว็บไซต์ที่ดีไม่ควรแค่สวย แต่ต้อง “ติดอันดับบน Google” ด้วย

• Wix พัฒนาเรื่อง SEO ดีขึ้นมากในช่วงหลัง มีเครื่องมือช่วยตั้ง Meta Title, Description และโครงสร้างพื้นฐาน
• WordPress ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับ 1 สำหรับนักทำ SEO เพราะสามารถติดตั้งปลั๊กอินอย่าง Yoast SEO หรือ Rank Math เพื่อจัดการได้อย่างละเอียด ตั้งแต่ Schema, Redirect, ไปจนถึง Keyword Optimization

ดังนั้นหากคุณต้องการวางแผนทำ SEO ในระยะยาว การเลือก รับทำเว็บไซต์ WordPress จะเป็นทางเลือกที่ยืดหยุ่นกว่าในอนาคต

5. ความเร็วและประสิทธิภาพของเว็บไซต์

Wix ให้ความเร็วที่ค่อนข้างคงที่ เนื่องจากใช้เซิร์ฟเวอร์กลาง แต่ไม่สามารถปรับแต่งเรื่อง Cache หรือ CDN ได้มากนัก
WordPress แม้ต้องตั้งค่าเอง แต่สามารถปรับได้ละเอียด เลือกโฮสต์คุณภาพ ใช้ปลั๊กอินเพิ่มความเร็ว และทำ Lazy Load ได้ตามต้องการ

สำหรับเว็บไซต์ขายของหรือเว็บธุรกิจที่เน้น Performance การปรับแต่งใน WordPress จะให้ผลลัพธ์ดีกว่าในระยะยาว

6. ด้านความปลอดภัยและการดูแลระบบ

Wix ดูแลระบบให้ทั้งหมด ไม่ต้องอัปเดตหรือกังวลเรื่องการแฮ็ก เพราะเป็นระบบปิด แต่ในทางกลับกัน ก็ไม่สามารถควบคุมได้มากนัก

WordPress ต้องอัปเดตธีม และ ปลั๊กอิน เอง แต่ข้อดีคือสามารถติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยเสริม และ Backup ข้อมูลได้ตามต้องการ เหมาะกับคนที่ต้องการความมั่นใจในระยะยาว

7. ด้านค่าใช้จ่ายในการทำเว็บไซต์

รายการ	Wix	WordPress
ค่ารายปี (แพ็กเกจพื้นฐาน)	3,000–8,000 บาท	ขึ้นอยู่กับโฮสต์ และ ปลั๊กอิน โดยเฉลี่ย 2,000–6,000 บาท
ค่าพัฒนา / ดีไซน์	รวมในแพ็กเกจ	เริ่มต้น 10,000–30,000 บาท (ขึ้นอยู่กับดีไซน์และระบบ)
ค่าระบบขายสินค้า	มีในบางแพ็กเกจ	ใช้ WooCommerce ฟรี + ปลั๊กอินเสริม
ค่าดูแลเว็บไซต์	Wix ดูแลให้	ต้องอัปเดตเอง หรือจ้างผู้เชี่ยวชาญดูแล

สรุปว่า Wix ราคาคงที่และไม่ซับซ้อน แต่ WordPress ยืดหยุ่นกว่าและปรับให้เติบโตได้ในอนาคต

เมื่อไหร่ควรเลือก Wix และเมื่อไหร่ควรเลือก WordPress

• เลือก Wix ถ้าคุณต้องการเว็บไซต์ง่าย เปิดไว เน้นความเร็วในการเริ่มต้นธุรกิจ
• เลือก WordPress ถ้าคุณมองว่าเว็บไซต์คือ “สินทรัพย์ของธุรกิจ” ที่ต้องรองรับ SEO การขาย และ การเติบโตในระยะยาว

โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่วางแผนทำตลาดผ่าน Google หรือทำคอนเทนต์ต่อเนื่อง ระบบ WordPress จะช่วยให้ง่ายต่อการปรับปรุงและต่อยอดในอนาคตมากกว่า

แนะนำสำหรับเจ้าของธุรกิจที่อยากเริ่มต้นอย่างคุ้มค่า

หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มอย่างไร ทางเลือกที่ดีที่สุดคือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน รับทำเว็บไซต์ WordPress เพราะมืออาชีพจะช่วยวิเคราะห์เป้าหมาย จัดระบบโครงสร้างเว็บให้เหมาะกับธุรกิจ และออกแบบให้สอดคล้องกับ SEO ตั้งแต่ต้น

นอกจากนี้ยังช่วยวางแผน Domain, Hosting และระบบหลังบ้านให้ครบ จบในที่เดียว โดยไม่ต้องลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง

ทั้ง Wix และ WordPress ต่างเป็นเครื่องมือที่ดี แต่สิ่งสำคัญคือ “เป้าหมายของธุรกิจ” หากต้องการเว็บไซต์เล็ก ใช้งานง่าย Wix คือคำตอบ แต่หากคุณตั้งใจสร้างระบบขายและแบรนด์ในระยะยาว WordPress คือการลงทุนที่คุ้มค่าในอนาคต

การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมตั้งแต่เริ่มต้น จะช่วยประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน และทำให้เว็บไซต์ของคุณพร้อมต่อยอดเป็นเครื่องมือการตลาดที่สร้างยอดขายได้จริง