แนะนำ 3 เครื่องมือ SEO ยอดฮิตผู้ช่วยในการทำ SEO สำหรับมือใหม่

การทำ SEO (Search Engine Optimization) เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับการเพิ่มการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณจากการค้นหาบน Google ซึ่งจะช่วยให้ยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณเพิ่มมากขึ้น และมีโอกาสเพิ่มยอดขายได้ 

สำหรับมือใหม่ เป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่จะวิเคราะห์ และทำ SEO ด้วยตัวเอง หลายคนจึงเลือกที่มองหาตัวช่วยต่างๆ ด้วยปัจจุบันมีเครื่องมือ SEO มากมาย ทั้งแบบฟรีและมีค่าใช้จ่าย ยากมากที่จะหาเครื่องมือที่เหมาะสมได้ในเวลาที่รวดเร็ว ฉะนั้น เราเลยรวบรวม 3 เครื่องมือ SEO ยอดนิยม ทั้งใช้ง่าย และมีฟีทเจอร์มากมายที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นทำ SEO ได้ง่ายยิ่งขึ้น

1. Ahrefs เพื่อวิเคราะห์ลิงก์ของคู่แข่ง

Ahrefs เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ลิงก์ที่ช่วยให้คุณเข้าใจว่าคู่แข่งของคุณใช้กลยุทธ์ SEO อะไรบ้าง คุณสามารถตรวจสอบโครงสร้างลิงก์ การจัดอันดับของคู่แข่ง และแม้กระทั่งค้นหาโอกาสในการสร้างลิงก์ที่มีคุณภาพ

ฟีเจอร์หลักของ Ahrefs

  • วิเคราะห์แบ็คลิงก์ ดูจำนวนและคุณภาพของแบ็คลิงก์ที่เว็บไซต์ของคุณมี เพราะแบ็คลิงก์เป็นปัจจัยสำคัญอันดับหนึ่งที่ Google ใช้ในการจัดอันดับเว็บไซต์
  • วิเคราะห์คีย์เวิร์ด ค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณและดูว่าเว็บไซต์ของคุณมีอันดับเท่าไหร่ในคีย์เวิร์ดนั้นๆ
  • วิเคราะห์คู่แข่ง ดูว่าคู่แข่งของคุณกำลังทำอะไรเพื่อกลยุทธ์ของคู่แข่งมาปรับใช้กับการทำ SEO ของคุณ
  • ตรวจสอบปัญหาของเว็บไซต์ ระบุปัญหาทางเทคนิคที่อาจส่งผลต่อ SEO ของเว็บไซต์ของคุณ
  • ติดตามอันดับ ติดตามอันดับของเว็บไซต์ของคุณสำหรับคีย์เวิร์ดที่สำคัญ
  • สร้างเนื้อหา ค้นหาไอเดียใหม่ๆ เพื่ออัปเดตเนื้อหาให้สามารถดึงดูดผู้เข้าชมและเพิ่มการทำ Backlink ให้มากขึ้น

Ahrefs มีทั้งเวอร์ชันฟรีและแบบเสียเงิน เวอร์ชันฟรีมีฟีเจอร์ที่สามารถใช้งานได้อย่างจำกัด แต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วๆ ไป เวอร์ชันเสียเงินจะมีฟีเจอร์ที่ครอบคลุมกว่า เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการวิเคราะห์ SEO ของเว็บไซต์อย่างละเอียด

2. Yoast SEO Plugin เพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับ SEO

Yoast SEO เป็นปลั๊กอินยอดนิยมสำหรับ WordPress ที่ช่วยปรับปรุงการจัดอันดับ SEO ของเว็บไซต์คุณ โดยปลั๊กอินนี้จะช่วยให้คุณเขียนเนื้อหาที่เหมาะสมกับการทำ SEO ตรวจสอบความยาวของเนื้อหา การใช้คีย์เวิร์ด และอื่นๆ อีกมากมาย Yoast SEO มีทั้งแบบฟรีที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น และแบบเสียเงิน ที่มีฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การวิเคราะห์การแข่งขัน การติดตามอันดับคำหลัก และการแนะนำเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

ฟีเจอร์หลักของ Yoast SEO Plugin

  • วิเคราะห์เนื้อหาของคุณ แนะนำวิธีปรับแต่ง SEO และตรวจสอบความถูกต้องของ On-Page SEO
  • ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับต้น ๆ บน Google เพิ่ม Traffic เพิ่มยอดขาย และสร้างแบรนด์
  • สร้าง Sitemap และ Robots.txt
  • ปรับแต่ง meta descriptions และ title tags
  • รองรับการใช้งาน Schema markup
  • ตรวจสอบความเร็วของเว็บไซต์
  • วิเคราะห์ backlink

3. Google Search Console เพื่อติดตามผลการค้นหาและการอินเด็กซ์

Google Search Console เป็นเครื่องมือฟรีจาก Google ที่ช่วยให้สามารถตรวจสอบและดูแลให้เว็บไซต์ปรากฏในผลการค้นหาของ Google ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยให้คุณเข้าใจว่า Google มองเห็นเว็บไซต์ของคุณอย่างไร ระบุปัญหาที่อาจส่งผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ และติดตามประสิทธิภาพการค้นหาเว็บไซต์ของคุณ ทำให้เว็บไซต์ของคุณมีอันดับการค้นหาสูงขึ้น และดึงดูดผู้เข้าชมที่เกี่ยวข้องมากขึ้น

ฟีเจอร์หลักๆ ของ Google Search Console:

  • รายงานการค้นหา แสดงข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการที่เว็บไซต์ของคุณแสดงในผลการค้นหาของ Google
  • การตรวจสอบ URL ช่วยให้คุณทดสอบ URL ของเว็บไซต์และดูว่า Google มองเห็นและจัดทำดัชนี URL นั้นอย่างไร
  • เครื่องมือสำหรับเว็บมาสเตอร์ ชุดเครื่องมือที่ช่วยให้คุณแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณ เช่น การส่ง Sitemap และขอการจัดทำดัชนี
  • รายงานปัญหา แสดงข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาที่อาจส่งผลต่อการจัดทำดัชนีเว็บไซต์ของคุณ
  • ตรวจสอบความเร็ว แสดงข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพความเร็วของเว็บไซต์ของคุณ
  • AMP แสดงข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ AMP บนเว็บไซต์ของคุณ

เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้คุณเริ่มต้นทำ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ลิงก์ของคู่แข่ง การปรับปรุงเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับการทำ SEO หรือการติดตามผลการค้นหาและการอินเด็กซ์ ด้วยเครื่องมือเหล่านี้ เพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับผลการค้นหาบน Google และดึงดูดผู้เข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น