เว็บไซต์สายคลินิก/โรงพยาบาล ต้องระวังเรื่องอะไรบ้างถึงจะผ่าน อย. และไม่โดนปิด

ในยุคที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพได้ง่ายดาย การมีเว็บไซต์คลินิกหรือโรงพยาบาลเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากต่อการสร้างความน่าเชื่อถือและดึงดูดผู้ใช้บริการใหม่ๆ แต่คุณมั่นใจแค่ไหนว่าเว็บไซต์ของคุณปลอดภัยจาก “กับดักทางกฎหมาย” ที่มองไม่เห็น? ภายใต้เนื้อหาที่ดูเป็นมิตรและให้ความรู้ อาจมี “คำต้องห้าม” ที่แฝงอยู่โดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจนำไปสู่การถูกปรับ ถูกสั่งปิดโฆษณา หรือร้ายแรงที่สุดคือการถูกสั่งระงับเว็บไซต์โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงสิ่งที่ต้องระวังอย่างยิ่งในการสร้างคอนเทนต์สำหรับธุรกิจสายสุขภาพ พร้อมเผยเคล็ดลับในการสร้างเว็บไซต์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่ต้องคอยกังวลว่าจะถูกตรวจสอบเมื่อไหร่

เจาะลึกสิ่งที่คลินิกและโรงพยาบาลต้องรู้ 

การทำคอนเทนต์บนเว็บไซต์สำหรับคลินิกและโรงพยาบาลเป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ใช่แค่การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงข้อกำหนดทางกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อย่างเคร่งครัด เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณไม่เพียงแต่เป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ แต่ยังปลอดภัยจากการถูกระงับหรือปิดตัว 

ทำไมต้องใส่ใจเรื่องกฎหมายโฆษณาของ อย.?

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่า การโฆษณาทางการแพทย์และการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพมีความละเอียดอ่อนสูง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับสุขภาพและชีวิตของประชาชนโดยตรง อย. จึงมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแล เพื่อป้องกันการโฆษณาที่โอ้อวดเกินจริง หลอกลวง หรือทำให้เข้าใจผิด หากเว็บไซต์ของคุณมีเนื้อหาที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด อาจส่งผลให้ถูกดำเนินคดี ปรับ และที่ร้ายแรงที่สุดคือการถูกสั่งระงับการโฆษณาหรือปิดเว็บไซต์ได้

สิ่งที่ต้องระวัง/ คำต้องห้ามและหลักเกณฑ์สำคัญ

การสร้างคอนเทนต์ที่ถูกใจ อย. ต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจ “คำต้องห้าม” และ “หลักเกณฑ์” ที่สำคัญ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นหัวข้อหลักๆ ได้ดังนี้

1. การใช้คำโฆษณาที่อวดอ้างเกินจริง

• ห้ามใช้คำที่แสดงผลลัพธ์แน่นอน 100% เช่น “เห็นผลทันที”, “หายขาดถาวร”, “ดีขึ้นใน 3 วัน”
• ห้ามใช้คำเชิงเปรียบเทียบหรือกล่าวอ้างว่าดีกว่าที่อื่น เช่น “ดีที่สุด”, “อันดับหนึ่ง”, “หนึ่งเดียวในโลก”
• ห้ามใช้คำที่สื่อถึงการรักษาโรคที่เกินขอบเขตการรักษาของสถานพยาบาล เช่น “รักษาโรคมะเร็ง”, “หยุดโรคเบาหวาน” หากการรักษานั้นไม่ได้อยู่ภายใต้การอนุญาตหรือมาตรฐานที่กำหนด
• ห้ามใช้คำที่สื่อว่าเป็นการรักษาโดยไม่เจ็บปวด เช่น “ทำแล้วไม่เจ็บเลย”, “ปลอดภัย 100%” เพราะทุกการรักษาย่อมมีความเสี่ยง

2. การใช้ภาพและข้อความที่สร้างความเข้าใจผิด

• ห้ามใช้ภาพก่อนและหลัง (Before & After) การแสดงผลลัพธ์ที่ชัดเจนเกินจริง เช่น ภาพหน้าเรียว, ผิวขาวใส, ร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ถือเป็นการโฆษณาเกินจริงที่ผิดกฎหมาย
• ห้ามใช้ข้อความเชิงรับประกันหรือรับรองผลการรักษา เช่น “หากไม่เห็นผลยินดีคืนเงิน”, “รับประกันความพึงพอใจ” เพราะผลการรักษาขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างของแต่ละบุคคล
• ห้ามใช้ข้อความที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดความกลัวหรือวิตกกังวล เพื่อจูงใจให้มาใช้บริการ เช่น “หากไม่ทำตอนนี้อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต”, “คุณกำลังเสี่ยงที่จะเป็นโรค [ชื่อโรค]”

3. การอ้างอิงและใช้บุคคลที่เกี่ยวข้อง

• ห้ามอ้างอิงบุคลากรทางการแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล หรือเภสัชกร เว้นแต่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ
• ห้ามใช้ข้อความรับรองจากบุคคลทั่วไป (Testimonial) เช่น “คุณ A บอกว่าใช้แล้วดีมาก”, “รีวิวจากลูกค้าที่ใช้จริง”
• ห้ามนำรูปภาพหรือวิดีโอของบุคคลที่มีชื่อเสียงมาใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการเพื่อโฆษณาบริการ

4. การให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนหรือเป็นความจริง

• ต้องระบุชื่อสถานพยาบาลและเลขที่ใบอนุญาตให้ชัดเจน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย
• ต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ไม่ควรให้ข้อมูลที่บิดเบือนหรือเกินจริง
• ต้องแสดงราคาหรือค่าใช้จ่ายอย่างชัดเจน ไม่ควรมีค่าใช้จ่ายแอบแฝงที่ไม่ได้ระบุไว้ในตอนแรก

แนวทางการสร้างคอนเทนต์ที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ

แทนที่จะมุ่งเน้นการโฆษณาที่ผิดกฎหมาย ลองเปลี่ยนมุมมองเป็นการ “ให้ความรู้” และ “สร้างความตระหนัก” (Awareness) แทน ซึ่งเป็นแนวทางที่ยั่งยืนและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในระยะยาว นี่คือตัวอย่างแนวทางการสร้างคอนเทนต์ที่ถูกต้อง:

1. สร้างคอนเทนต์ให้ความรู้ที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ

• อธิบายโรคและอาการ ให้ข้อมูลที่เข้าใจง่ายเกี่ยวกับโรคต่างๆ เช่น “อาการปวดหลังที่ควรรีบปรึกษาแพทย์” หรือ “ทำความเข้าใจโรคเบาหวานประเภทที่ 2”
• อธิบายกระบวนการรักษา ให้ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการรักษาที่น่าเชื่อถือ เช่น “เลเซอร์รักษาฝ้าทำงานอย่างไร?”, “เตรียมตัวอย่างไรก่อนการผ่าตัดเล็ก” โดยเน้นที่กระบวนการและข้อควรระวัง
• เผยแพร่บทความเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เช่น “อาหาร 5 อย่างที่ช่วยบำรุงหัวใจ” หรือ “เคล็ดลับการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ”

2. เน้นการสร้างความน่าเชื่อถือของสถานพยาบาล

• แนะนำทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นำเสนอประวัติการศึกษา ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของแพทย์ในคลินิกหรือโรงพยาบาลของคุณ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
• บอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จ แทนที่จะใช้ภาพ “ก่อน-หลัง” ลองนำเสนอเรื่องราวของผู้ป่วย (โดยได้รับอนุญาตและปกปิดข้อมูลส่วนตัว) ที่กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นหลังการรักษา
• นำเสนอเทคโนโลยีและมาตรฐานการบริการ อธิบายให้ผู้ป่วยเห็นถึงเครื่องมือที่ทันสมัยและมาตรฐานการดูแลระดับสากลที่ใช้ในสถานพยาบาลของคุณ

3. ใช้ภาพและวิดีโอที่ให้ความรู้

• ใช้ภาพประกอบที่เป็นกลาง เช่น ภาพเครื่องมือแพทย์, บรรยากาศภายในคลินิก, ภาพอินโฟกราฟิกที่อธิบายขั้นตอนการรักษา
• สร้างวิดีโอให้ความรู้จากแพทย์ ให้แพทย์เป็นผู้ให้ข้อมูลในรูปแบบวิดีโอ โดยอธิบายเรื่องสุขภาพหรือโรคต่างๆ ซึ่งจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและเป็นมิตรกับผู้ชม

จุดแข็งของ Cz Group ที่ปรึกษาการตลาดดิจิทัลสายสุขภาพตัวจริง

Cz Group แตกต่างจากที่ปรึกษาการตลาดทั่วไป เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจในธุรกิจคลินิกและโรงพยาบาลอย่างแท้จริง เราไม่ได้แค่รู้เรื่อง SEO แต่เราเข้าใจถึงข้อจำกัดและความซับซ้อนของกฎหมายสายสุขภาพ ทั้งจาก อย. และกฎหมายโฆษณาออนไลน์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจนี้

1. รู้ลึกเรื่องกฎหมายสายสุขภาพ (ทั้ง อย. และโฆษณาออนไลน์)

ทีมงานของเราประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญที่ศึกษาและติดตามการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายโฆษณาทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด เราสามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องเกี่ยวกับ “คำต้องห้าม” และ “ข้อกำหนด” ต่างๆ ที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าทุกคอนเทนต์ที่สร้างขึ้นจะ ปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย 100%

2. วางโครงสร้างเว็บแบบถูกต้องตั้งแต่ต้น ไม่ต้องกลัวโดนปิด

การวางรากฐานที่มั่นคงตั้งแต่แรกเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราจะช่วยคุณวางโครงสร้างเว็บไซต์ให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของ อย. ตั้งแต่เริ่มต้น ตั้งแต่การออกแบบหน้าเว็บไปจนถึงการเขียนคอนเทนต์ ทำให้คุณไม่ต้องกังวลว่าจะต้องมาแก้ไขในภายหลัง หรือเสี่ยงต่อการถูกสั่งปิดเว็บไซต์ในอนาคต

ตารางเปรียบเทียบ: ทำเว็บไซต์คลินิกกับ Cz Group ต่างจากที่อื่นยังไง?

หัวข้อ	การทำเว็บไซต์ทั่วไป	การทำเว็บไซต์กับ Cz Group
ความรู้ด้านกฎหมาย	เน้นการสร้างเว็บไซต์ที่สวยงามและใช้งานง่าย แต่อาจขาดความเข้าใจในกฎหมายโฆษณาทางการแพทย์ ทำให้เสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย	เข้าใจลึกซึ้งในกฎหมาย อย. และโฆษณาออนไลน์ สามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องและช่วยวางแผนคอนเทนต์ให้ปลอดภัย
การวางโครงสร้างเว็บ	สร้างเว็บไซต์ตามความต้องการของลูกค้าและเทรนด์การออกแบบทั่วไป ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ อย.	วางโครงสร้างเว็บไซต์โดยคำนึงถึงกฎหมาย อย. เป็นหลัก ตั้งแต่ต้น ทำให้มั่นใจว่าเว็บของคุณจะปลอดภัยและถูกต้องตามหลักเกณฑ์ในระยะยาว
การสร้างคอนเทนต์	มุ่งเน้นการใช้คำที่น่าดึงดูดและเน้นการขายเพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการใช้คำต้องห้าม	เน้นการสร้างคอนเทนต์ให้ความรู้ สร้างความน่าเชื่อถือและความตระหนัก (Awareness) ทำให้ผู้ใช้เชื่อมั่นและตัดสินใจใช้บริการด้วยความสมัครใจ
ความเสี่ยงในการดำเนินงาน	มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกตรวจสอบและสั่งปิดเว็บไซต์หากมีการใช้คำโฆษณาเกินจริงหรือผิดกฎหมาย	ความเสี่ยงต่ำมาก เพราะเราวางรากฐานและสร้างคอนเทนต์โดยอิงตามข้อกำหนดทางกฎหมาย ทำให้คุณสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนและปลอดภัย

หากคุณต้องการผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจทั้งเรื่องกฎหมายสายสุขภาพและการตลาด เพื่อสร้างเว็บไซต์คลินิกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพให้กับคลินิกหรือโรงพยาบาลของคุณ ลองปรึกษาเราได้เลยเราพร้อมเป็นพันธมิตรที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมั่นคง