เข้าใจความต่างของ Expertise vs Experience ก่อนนำมาปรับใช้กับคอนเทนต์ SEO

Google ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของเนื้อหามากกว่าที่เคย หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า E-E-A-T ย่อมาจาก Experience, Expertise, Authoritativeness และ Trustworthiness แต่หลายธุรกิจยังสับสนระหว่างคำว่า Expertise (ความเชี่ยวชาญ) และ Experience (ประสบการณ์ตรง) ว่าคือสิ่งเดียวกันหรือไม่ แล้วควรใช้อย่างไรในคอนเทนต์ SEO ให้มีพลังมากที่สุด

ความหมายของ Expertise และ Experience

Expertise คือ ความรู้เชิงลึกในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง อาจได้มาจากการเรียนรู้ การฝึกฝน หรือการทำงานในสายงานนั้นมาอย่างต่อเนื่อง เป็นความรู้ที่สามารถวัดผลได้ อ้างอิงได้ และจะถูกเชื่อมโยงกับวุฒิการศึกษา หรืออาชีพ

ตัวอย่าง

• แพทย์ที่อธิบายเรื่องการรักษาโรค
• นักบัญชีที่เขียนเรื่องภาษีและการตรวจสอบบัญชี
• วิศวกรที่วิเคราะห์โครงสร้างอาคาร

Experience คือ ประสบการณ์ที่ได้มาจากการลงมือทำ หรือการเผชิญสถานการณ์นั้นด้วยตัวเอง เป็นเรื่องที่อาจไม่ได้มาจากความรู้เชิงทฤษฎี แต่เกิดจาก “ผ่านมันมาแล้วจริง ๆ”

ตัวอย่าง

• ผู้ป่วยที่เล่าเรื่องการรักษาด้วยตัวเอง
• คนที่ลดน้ำหนักสำเร็จด้วยวิธีเฉพาะ
• ผู้ประกอบการที่เล่าถึงเส้นทางการตั้งธุรกิจ

ทำไม Google ถึงแยกสองสิ่งนี้ออกจากกัน?

Google พยายามเข้าใจว่า “ใครคือผู้ที่ควรได้รับความไว้วางใจในการเขียนเรื่องนี้” เพราะไม่ใช่ทุกเรื่องที่ต้องมาจากผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น บางเรื่องอาจมีน้ำหนักมากขึ้นเมื่อเล่าจากผู้มีประสบการณ์ตรง เช่น รีวิวจากผู้ใช้จริง อาจน่าเชื่อถือกว่าคำอธิบายเชิงทฤษฎีในบางกรณี โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ ความงาม การเงิน หรือการตัดสินใจส่วนตัว

แล้วคอนเทนต์ SEO ควรเลือกใช้แบบไหน?

ถ้าเนื้อหาต้องการความถูกต้องสูง

ใช้ Expertise เป็นหลัก เช่น คอนเทนต์เกี่ยวกับคำแนะนำทางการแพทย์ กฎหมาย หรือการเงิน ต้องเขียนโดยหรืออ้างอิงจากผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

ถ้าเนื้อหาต้องการความใกล้ชิดหรือเล่าเรื่องจากประสบการณ์

ใช้ Experience เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้อ่าน เช่น เคสรีวิว ขั้นตอนการทำศัลยกรรม รีวิวสินค้า การลดน้ำหนักแบบไหนเวิร์ก เป็นการแชร์ประสบการณ์ตรงที่ช่วยให้คนอ่านอินและไว้วางใจมากขึ้น

หรือใช้ทั้งสองร่วมกัน

คอนเทนต์ที่ดีที่สุดคือการผสมทั้งความรู้และประสบการณ์ เช่น

• แพทย์อธิบายโรค พร้อมแชร์เคสจริงจากผู้ป่วย
• นักโภชนาการอธิบายวิธีคุมอาหาร พร้อมเทียบผลลัพธ์จากเคสผู้ใช้จริง
• เจ้าของแบรนด์เขียนเรื่องการวางแผน SEO พร้อมสอดแทรกประสบการณ์ที่เคยเจอมา

วิธีนำ Expertise และ Experience ไปใช้กับคอนเทนต์ SEO

1. ระบุแหล่งที่มาและตัวตนผู้เขียนให้ชัด

ถ้าบทความเขียนโดยผู้เชี่ยวชาญ ควรมีประวัติหรือ credential แนบไว้ เช่น “ดร.แพทย์…” หรือ “ที่ปรึกษาด้านการตลาดกว่า 10 ปี”

2. แทรกเรื่องราวหรือเคสจริง

ถ้าใช้จากประสบการณ์ ควรใส่รายละเอียดให้จับต้องได้ เช่น “จากที่เคยลองใช้ผลิตภัณฑ์ A มา 3 เดือน พบว่า…” หรือ “เคยลองวิธีนี้แล้วน้ำหนักลดไป 5 กิโลใน 2 เดือน”

3. เลือกรูปแบบที่เหมาะสม

• ถ้าใช้ Expertise ใช้โทนจริงจัง ทางการ ข้อมูลต้องถูกต้อง
• ถ้าใช้ Experience ใช้โทนเป็นกันเอง เล่าเรื่องเหมือนเพื่อนเล่าให้ฟัง

4. ปรับให้เข้ากับ Search Intent

เช่น คนที่ค้นหา “ลดน้ำหนักยังไงให้ได้ผลจริง” อาจต้องการอ่านประสบการณ์จากคนที่เคยลดจริง มากกว่าทฤษฎีเรื่องแคลอรี่

Expertise และ Experience ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน แต่ต่างก็มีบทบาทในการสร้างคอนเทนต์ SEO ที่ดี สร้างความน่าเชื่อถือ ส่วนประสบการณ์สร้างความสัมพันธ์กับผู้อ่าน เมื่อคุณเข้าใจความต่างนี้ และรู้จักเลือกใช้ให้เหมาะกับบริบท คอนเทนต์ของคุณจะทรงพลังขึ้นมาก ทั้งต่อคนอ่าน และต่อการจัดอันดับใน Google