เจาะลึก WordPress ข้อดีที่ธุรกิจส่วนใหญ่เลือกใช้ กับข้อเสียที่ผู้ประกอบการควรรู้ก่อนเริ่มต้นทำเว็บไซต์

สำหรับเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์เพื่อรองรับลูกค้าออนไลน์ การเลือกเครื่องมือให้เหมาะกับเป้าหมายถือเป็นจุดเริ่มที่สำคัญ WordPress คือหนึ่งในระบบที่หลายแบรนด์เลือกใช้ ทั้ง SME ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ เพราะตอบโจทย์ทั้งในด้านความยืดหยุ่น การจัดการเนื้อหา และการขยายเว็บไซต์ในอนาคต แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อจำกัด

WordPress คืออะไร และทำไมจึงเป็นตัวเลือกของเจ้าของธุรกิจ

WordPress เป็นระบบบริหารจัดการเนื้อหา (CMS) ที่สามารถติดตั้งบนโฮสติ้งของคุณเอง เปิดโอกาสให้ปรับแต่งเว็บไซต์ได้อย่างอิสระ ธุรกิจที่ต้องการควบคุมเว็บไซต์ด้วยตัวเอง เลือกออกแบบได้ตามแบรนด์ และขยายระบบในอนาคต เช่น อีคอมเมิร์ซ บล็อก ข่าวสาร หรือลูกเล่นเฉพาะทาง มักจะเลือก WordPress เพราะมันเปิดให้ปรับได้ครบทุกมิติ

จุดเด่นที่ WordPress ทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยืดหยุ่น

หนึ่งในเหตุผลหลักที่ธุรกิจขนาดเล็กถึงใหญ่เลือกใช้ WordPress ก็คือ “ความยืดหยุ่นแบบไม่ต้องล็อกอินกับระบบปิด” ไม่ว่าคุณจะขายสินค้า บริการ หรือแค่ต้องการเว็บไซต์แนะนำตัวแบรนด์ WordPress ก็สามารถรองรับได้หมด

• ควบคุมดีไซน์และเนื้อหาได้เต็มที่
  คุณสามารถออกแบบเว็บไซต์ให้สะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้โดยไม่ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของแพลตฟอร์มสำเร็จรูป
• ขยายเว็บไซต์ตามกลยุทธ์ธุรกิจ
  เริ่มจากเว็บไซต์เล็ก ๆ แล้วค่อยเพิ่มปลั๊กอิน SEO ระบบหลังบ้าน ระบบตะกร้าสินค้า หรือลิงก์กับระบบ CRM ได้ในภายหลังโดยไม่ต้องสร้างใหม่
• ช่วยลดต้นทุนในระยะยาว
  แม้ WordPress จะต้องจ้างทีมช่วยตั้งค่าในช่วงต้น แต่เมื่อเว็บไซต์เสร็จแล้ว คุณสามารถดูแลอัปเดตข้อมูลเองได้ทันที ไม่ต้องเสียค่ารายเดือนแพง ๆ เหมือนบางระบบ
• เชื่อมโยงกับระบบออนไลน์อื่น ๆ ได้ง่าย
  ไม่ว่าจะเป็นการยิงโฆษณา เก็บข้อมูลผ่านแบบฟอร์ม หรือการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งาน WordPress มีปลั๊กอินรองรับครบทุกเครื่องมือที่ธุรกิจจำเป็นต้องใช้

ข้อจำกัดที่ผู้ประกอบการควรเตรียมใจไว้ก่อนใช้ WordPress

แม้ WordPress จะดูน่าสนใจ แต่ในมุมของธุรกิจแล้ว ยังมีหลายจุดที่ควรรู้และวางแผนให้ดี เพราะหากเตรียมไม่พร้อมอาจทำให้เว็บไซต์กลายเป็นภาระ

• ต้องมีทีมดูแลหรือผู้พัฒนา
  สำหรับธุรกิจที่ไม่มีทีมไอทีในบ้าน ควรมองหาพาร์ตเนอร์ที่มีประสบการณ์ด้าน WordPress เพราะมีรายละเอียดด้านเทคนิคพอสมควรในช่วงเริ่มต้น
  
• เว็บไซต์ที่โหลดช้า มีผลต่อภาพลักษณ์
  หากเลือกโฮสติ้งไม่ดี หรือใช้ปลั๊กอินมากเกินไป อาจส่งผลให้เว็บไซต์ช้า ซึ่งอาจกระทบทั้ง SEO และประสบการณ์ของลูกค้า
  
• ความปลอดภัยต้องใส่ใจต่อเนื่อง
  ธุรกิจที่มีระบบเก็บข้อมูลลูกค้า หรือมีการจ่ายเงินบนเว็บ ต้องมีระบบป้องกันความปลอดภัยที่ดี อัปเดตสม่ำเสมอ เพราะ WordPress เป็นแพลตฟอร์มที่แฮ็กเกอร์รู้จักดี

WordPress vs เว็บไซต์สำเร็จรูป แบบไหนเหมาะกับธุรกิจคุณ

หากมองเฉพาะเรื่องความเร็วในการเริ่มต้น เว็บไซต์สำเร็จรูปอย่าง Wix หรือ Shopify อาจดูสะดวกกว่า เพราะสมัครแล้วเปิดใช้ได้ทันที แต่ในระยะยาว WordPress ให้ความคุ้มค่ามากกว่า ทั้งในแง่ฟีเจอร์ SEO และการควบคุมภาพรวมของแบรนด์

ธุรกิจที่เน้นเติบโต ต้องปรับเว็บให้รองรับการตลาดออนไลน์หลายช่องทาง หรือมีทีมคอยดูแลในอนาคต WordPress คือทางเลือกที่ยืดหยุ่นกว่า และให้คุณภาพระดับมืออาชีพในงบที่ควบคุมได้

ใช้ WordPress เอง หรือจ้างมืออาชีพทำเว็บไซต์ดีกว่า

ถ้าธุรกิจของคุณยังไม่มีทีมไอที หรือไม่มีเวลาศึกษาระบบ WordPress แบบลงลึก การทำเว็บไซต์เองอาจใช้เวลานาน และได้ผลลัพธ์ไม่ตรงตามเป้า การใช้บริการ รับทำเว็บไซต์ WordPress จึงเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลา และได้เว็บไซต์ที่พร้อมใช้งานทันที พร้อมระบบดูแลหลังบ้านที่ธุรกิจสามารถจัดการได้ง่ายภายหลัง

WordPress เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการเว็บไซต์ที่ควบคุมได้เต็มที่ สะท้อนตัวตนแบรนด์ และรองรับการเติบโตในอนาคต จุดแข็งของระบบนี้คือความยืดหยุ่น ความสามารถในการเชื่อมต่อกับระบบอื่น และต้นทุนที่คุ้มค่าหากวางโครงสร้างไว้ดีตั้งแต่ต้น

สำหรับธุรกิจที่เลือกใช้ WordPress ควรมีทีมสนับสนุนที่เข้าใจระบบ หรือเลือกใช้บริการรับทำเว็บไซต์จากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เว็บไซต์กลายเป็นทรัพย์สินที่ช่วยสร้างยอดขาย ไม่ใช่ต้นทุนที่แบกรับโดยไม่จำเป็น