รวมแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ยอดนิยม ประจำปี 2025

ปี 2025 โลกออนไลน์ก็ยังคงขับเคลื่อนด้วยเว็บไซต์เป็นศูนย์กลาง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าขาย ธุรกิจบริการ หรือคอนเทนต์สายครีเอเตอร์ การมีเว็บไซต์ของตัวเองจึงไม่ใช่แค่ตัวเลือกอีกต่อไป แต่กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างความน่าเชื่อถือและเติบโตอย่างมั่นคง หลายคนอาจกำลังมองหาเครื่องมือหรือแพลตฟอร์มที่ช่วยสร้างเว็บไซต์ได้สะดวก รวดเร็ว และคุ้มค่าที่สุด บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2025 พร้อมแชร์จุดเด่นและแนวทางที่เหมาะกับแต่ละประเภทธุรกิจ

ทำไมต้องเลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะกับเป้าหมาย

สิ่งแรกที่ควรเข้าใจก่อนเริ่มสร้างเว็บไซต์ คือเป้าหมายที่คุณต้องการจากเว็บไซต์นั้น เช่น ถ้าเป็นร้านค้าออนไลน์ คุณอาจต้องการระบบตะกร้าสินค้า การเชื่อมต่อระบบจ่ายเงิน และฟีเจอร์ด้านโลจิสติกส์ ในขณะที่เว็บไซต์บริษัทหรือองค์กรอาจต้องการโฟกัสเรื่องภาพลักษณ์ ความเร็ว และระบบติดต่อที่สะดวก แพลตฟอร์มแต่ละแบบมีความถนัดที่ไม่เหมือนกัน การเลือกให้เหมาะจึงช่วยประหยัดเวลา ประหยัดงบประมาณ และต่อยอดได้ในระยะยาว

1. WordPress ระบบที่ยืดหยุ่นและขยายได้ไม่สิ้นสุด

พูดถึงระบบสร้างเว็บไซต์ WordPress ยังคงครองตำแหน่งผู้นำในปี 2025 ด้วยความยืดหยุ่นและจำนวนปลั๊กอินที่รองรับหลากหลายฟังก์ชัน จุดเด่นของ WordPress อยู่ที่สามารถปรับแต่งให้เข้ากับแทบทุกประเภทเว็บไซต์ ตั้งแต่บล็อกส่วนตัว ไปจนถึงเว็บไซต์องค์กรระดับสากล ทั้งยังรองรับ SEO ได้ดี มีระบบจัดการบทความที่ใช้งานง่าย จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มนักพัฒนาและเจ้าของกิจการที่ต้องการเติบโตในโลกออนไลน์แบบจริงจัง

2. Shopify ตัวจริงด้านอีคอมเมิร์ซ

หากคุณมุ่งเน้นสร้างร้านค้าออนไลน์ที่ครบเครื่อง Shopify คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด ระบบมีเครื่องมือสำหรับจัดการสินค้า รับออร์เดอร์ เชื่อมต่อระบบจ่ายเงิน และบริการขนส่งอย่างเป็นระบบ ช่วยให้เจ้าของร้านไม่ต้องวุ่นวายกับด้านเทคนิคมากนัก นอกจากนี้ Shopify ยังมีธีมสำเร็จรูปสวย ๆ ให้เลือกใช้งาน พร้อม Marketplace ปลั๊กอินที่ทำให้ร้านคุณยืดหยุ่นและแข่งขันในตลาดได้ง่ายขึ้น

3. Wix ทางเลือกของคนสร้างไว สวยครบในตัว

Wix ได้รับความนิยมในหมู่เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กและฟรีแลนซ์ เพราะใช้งานง่าย มีระบบลากวางที่ช่วยให้การออกแบบเว็บไซต์ไม่ต้องใช้โค้ดเลยแม้แต่นิดเดียว จุดเด่นคือมีเทมเพลตหลากหลาย และสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับทั้งเว็บไซต์ส่วนตัว เว็บไซต์พอร์ตโฟลิโอ หรือแม้กระทั่งร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็ก นอกจากนี้ยังรองรับการทำ SEO และเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียได้ในตัว

4. Webflow สายดีไซน์มือโปร

Webflow กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มนักออกแบบที่ต้องการควบคุมดีไซน์ทุกอย่างได้ละเอียด โดยไม่ต้องใช้โค้ด แต่สามารถทำเว็บไซต์ออกมาได้มืออาชีพสุด ๆ จุดแข็งของ Webflow คือความสามารถด้าน Visual Design ที่ตอบโจทย์ UI/UX และมีระบบ CMS สำหรับจัดการเนื้อหาภายในเว็บไซต์ในระดับที่ใกล้เคียงกับ WordPress สำหรับแบรนด์ที่ต้องการภาพลักษณ์ล้ำสมัย Webflow ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม

5. Squarespace สำหรับสายมินิมอล เน้นภาพลักษณ์แบรนด์

Squarespace เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยเทมเพลตที่ออกแบบมาอย่างเรียบหรูเหมาะสำหรับสายครีเอทีฟ เช่น ช่างภาพ ศิลปิน หรือธุรกิจที่ต้องการนำเสนอแบรนด์แบบน้อยแต่มาก จุดเด่นคือใช้งานง่าย มีฟีเจอร์พื้นฐานครบครัน และยังสามารถเปิดร้านออนไลน์ได้ภายในไม่กี่คลิก

6. Joomla และ Drupal สำหรับองค์กรขนาดใหญ่

สำหรับองค์กรหรือหน่วยงานที่ต้องการระบบเว็บไซต์ที่ซับซ้อน และสามารถควบคุมความปลอดภัยในระดับสูง Joomla และ Drupal เป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่ง ระบบเหล่านี้เหมาะกับทีมที่มีความรู้ด้านเทคนิค หรือมีโปรแกรมเมอร์ดูแลโดยตรง จุดเด่นคือสามารถสร้างระบบจัดการข้อมูลหรือสมาชิกแบบละเอียด รวมถึงรองรับหลายภาษาในระบบเดียว

7. Google Sites สร้างง่าย เหมาะกับการนำเสนอเบื้องต้น

แม้จะไม่ใช่แพลตฟอร์มสำหรับสร้างเว็บไซต์เชิงธุรกิจอย่างจริงจัง แต่ Google Sites ก็เหมาะกับการนำเสนอข้อมูลภายในองค์กร โปรเจกต์ส่วนตัว หรืองานนำเสนอแบบอินเทอร์แอคทีฟ จุดเด่นคือใช้งานฟรี เชื่อมต่อกับบริการอื่นของ Google ได้อย่างไร้รอยต่อ และไม่ต้องใช้ทักษะการเขียนเว็บใด ๆ เลย

แล้วธุรกิจไทยควรเลือกอะไรในปี 2025

หากพูดถึงในบริบทของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่ม SME ที่ต้องการขยายตลาดออนไลน์ได้รวดเร็ว การเริ่มจาก WordPress หรือ Shopify จะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด เพราะมีความยืดหยุ่นสูง ปรับขยายได้ง่าย และรองรับการทำ SEO ได้ดี สำหรับกลุ่มฟรีแลนซ์หรือผู้เริ่มต้น Wix และ Squarespace ก็ตอบโจทย์มาก เพราะใช้เวลาไม่นานก็สามารถมีเว็บไซต์พร้อมใช้งานได้ทันที ส่วนกลุ่มที่ต้องการดีไซน์เฉพาะหรือระบบหลังบ้านขั้นสูง การพัฒนาเว็บไซต์เองด้วย Webflow หรือ Drupal ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดี

หากคุณไม่ถนัดเรื่องเทคนิค หรืออยากให้ทีมงานมืออาชีพช่วยวางแผนและลงมือทำให้ทั้งหมด การเลือกใช้บริการจากทีมรับทำเว็บไซต์จึงเป็นทางลัดที่ช่วยประหยัดเวลาและงบประมาณได้ไม่น้อย
รับทำเว็บไซต์ โดยทีมงานมืออาชีพ 

แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ยังคงมีบทบาทต่อเนื่อง

แม้ว่าทุกวันนี้แพลตฟอร์มโซเชียลจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่เว็บไซต์ก็ยังคงเป็นจุดศูนย์กลางของตัวตนธุรกิจที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นด้าน SEO ช่องทางการค้นหาบน Google การเก็บข้อมูลลูกค้า ไปจนถึงการควบคุมภาพลักษณ์ของแบรนด์ เว็บไซต์คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างฐานลูกค้าอย่างยั่งยืน และขยายช่องทางการขายได้ในระยะยาว

แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ในปี 2025 มีให้เลือกหลากหลายตามความต้องการและเป้าหมายของแต่ละธุรกิจ โดย WordPress, Shopify, Wix, Webflow และ Squarespace ยังคงเป็นตัวเลือกหลักสำหรับตลาดทั้งระดับเริ่มต้นและระดับมืออาชีพ การเลือกให้เหมาะกับประเภทเว็บไซต์ของคุณคือกุญแจสำคัญที่สุด เพราะจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และทำให้เว็บไซต์ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุด และหากคุณต้องการเว็บไซต์ที่พร้อมใช้ พร้อมทีมงานดูแลด้านเทคนิค SEO และฟังก์ชันธุรกิจครบในที่เดียว ก็สามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยบริการ รับทำเว็บไซต์ จากทีมงานมืออาชีพ